วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

บทความ ข้อคิด จากหนังสือ

บทความดีๆจากการอ่านหนังสือ  [2]


1. แค่เพราะบางอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คุณวางแผนไว้ ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีประโยชน์
จาก โทมัส เอดิสัน

2. 99% ของงานที่ตนได้ทำล้วนแต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า... แต่ ผลงานเพียง 1% ที่ประสบความสำเร็จทำให้มีตัวเองในวันนี้ 
จาก ฮอนดะ โซอิจิโร (ผู้ก่อตั้ง Honda)

3. ข้อดีของความล้มเหลว คือ มันทำให้เรามองเห็นจุดหมายปลายทางชัดขึ้น ข้อดีของความลำบาก คือ มันทำให้เรามองเห็นเพื่อนแท้ชัดขึ้น

4. การจะเป็น "คนดี" ..มันสำคัญอยู่ที่ "เราทำ" ..ไม่ใช่อยู่ที่ "ใครมอง

5. เมื่อไหร่ที่คุณหยุดทำบางอย่าง เพราะคิดว่ามัน
สมบูรณ์แบบแล้ว นั่นหมายความว่าคุณกำลังเดิน ถอยหลัง
 
 


 

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รวมบทความที่ดี จากหนังสือ

1. การที่คุณบอกความในใจกับใครคนนั้นไป มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย
เพราะบางทีใครคนนั้นอาจกำลังรอคำพูดของคุณอยู่ 


2. เธอจะพบความสวยงามของมหาสมุทรได้อย่างไร หากเธอไม่กล้าพอที่จะออกไปไกลจากฝั่ง 

3. สำหรับคนที่มีความอดทน แม้ชั่วโมงที่ยากลำบากที่สุดก็ยาวนานเพียง 60 นาที 

4. วันที่ยาวนานที่สุด คือวันที่หัวใจของเธอไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

5. บางครั้ง เราอาจไม่เข้าใจการกระทำของตัวเอง ฉะนั้น จึงไม่ควรตัดสินการกระทำของคนอื่น 

6. เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่ามัวคิดว่าใครเป็นคนทำ แต่จงคิดว่าจะแก้ไขได้อย่างไร 

7. ถ้ามองแต่ความผิดของคนอื่น เธอจะมีแต่ความเกลียด ถ้ามองแต่ความดีของคนอื่น เธอจะมีแต่ความรัก 

8. เมื่อพบความผิดพลาด ก็นับว่า ความผิดพลาดนั้นได้รับการแก้ไขไปแล้วส่วนหนึ่ง 

9. หากเธอยอมรับประโยชน์จากแสงสว่าง และความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์
เธอต้องยอมรับผลของพายุของฝนฟ้าคะนองด้วย 


10. ความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ใช่การอธิษฐาน 

โดย : nong1363        

แนะนำหนังสือนิทาน 4 เรื่อง

น้ำผึ้งหยดเดียว

เรื่องย่อ
เพื่อนรัก ๒ คน  ปลูกบ้านใกล้กัน แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเพื่อนคนหนึ่งบังเอิญทำให้น้ำผึ้งหยดลงบนพื้น  เรื่องยุ่งยากต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น  และลุกลามบานปลาย ก่อเกิดสงครามใหญ่โต  นำภัยพิบัติมาตกแก่ชาวเมืองทุกคน


กาน้ำชาวิเศษ

เรื่องย่อ
ชายชราผู้ยากจน แต่น้ำใจงาม ได้พบกาน้ำชาวิเศษที่สามารถร้องเพลง เต้นรำ และแสดงมายากลได้ ทั้งสองได้เปิดการแสดงจนร่ำรวยมากพอ จึงกลับไปใช้ชีวิตเงียบสงบเช่นที่ปรารถนา

เจ้าชายกบ

เรื่องย่อ
เจ้าหญิงพระองค์หนึ่ง  ทำลูกบอลทองคำตกลงไปในสระน้ำ  ทรงให้คำมั่นสัญญา ๓ ข้อ กับกบในสระ จนได้ลูกบอลคืน และได้ช่วยแก้คำสาปจนกบน้อยกลายเป็นเจ้าชายที่สง่างาม

ได้ดีเพราะฝีปาก

เรื่องย่อ
ชายหนุ่มคนหนึ่งโชคดีกว่าใคร ๆ ทั้งหมู่บ้าน  เพราะสามารถเอาชนะใจพ่อตาจอมโมโห ด้วยวาจาที่ไพเราะ อ่อนหวานจนได้ครอบครองทั้งทรัพย์สมบัติและลูกสาวแสนสวย

 



แนะนำหนังสือน่าอ่าน 2556

 

ชื่อหนังสือ   ร้อยประเมินหรือจะสู้...ครูคนหนึ่ง
ผู้เขียน   เฮเดน ทอรี่ (แปลโดย...ประเสริฐ  ตันสกุล)
ปีที่พิมพ์   พ.ศ. 2556
รายละเอียด:
หนังสือร้อยประเมินหรือจะสู้...ครูคนหนึ่ง คือรูปแบบแห่งแรงบันดาลใจของความเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ ที่ผู้เขียนถ่ายทอดจากประสบการณ์ในการสอนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ และนำมาเรียบเรียงถ่ายทอดให้อ่านกันอย่างซาบซึ้ง และเป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพครูการศึกษาพิเศษ  ครูหรือผู้ที่กำลังจะเป็นครู คุณค่าหนังสือเล่มนี้คือแสงสว่างแห่งแรงบันดาลใจอย่างแท้จริงในการพัฒนาเด็ก ทุกคน
ชื่อหนังสือ   ทักษะความคิด : พัฒนาอย่างไร
High Level of thinking Skills : How to Develop
ผู้เขียน   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์
ปีที่พิมพ์   พ.ศ. 2555
รายละเอียด:
มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนาความคิดระดับสูงเบื้องต้น และเป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้กับชั้นเรียนปกติกับนักเรียนทั่วไป และเด็กที่มีความสามารถทุกประเภท เพื่อให้นักการศึกษา นักจิตวิทยา นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ครูหรือผู้ปกครอง ผู้ผลิตแบบฝึกหัดสำหรับนักเรียนระดับต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพมนุษย์ได้ศึกษาและนำไปบูรณาการใน วิชาต่างๆ ต่อไป

ชื่อหนังสือ   การเสาะหา/คัดเลือกผู้มีความสามารถพิเศษ
Identification for the gifted/Talented
ผู้เขียน   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์
ปีที่พิมพ์   พ.ศ. 2555
รายละเอียด:
เป็นหนังสือที่นำแนวคิด ทฤษฎี และหลักการที่สำคัญๆ ในการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษไว้อย่างรอบด้าน เขียนด้วยภาษาที่อ่านง่าย พร้อมตัวอย่างและแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม จึงเหมาะสำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งครู อาจารย์ และนักวิชาการด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นคู่มือ และแนวทางจัดการพัฒนาเด็กและเยาวชนกล่มนี้ให้สามารถใช้ศักยภาพของเขาให้ได้ มากที่สุดอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับศักยภาพของเด็กแต่ละคนมากยิ่งขึ้น

ชื่อหนังสือ   การสอนเด็กปัญญาเลิศ
ผู้เขียน   ศาตราจารย์ ดร.ผดุง อารยะวิญญู
ปีที่พิมพ์   พ.ศ. 2551
รายละเอียด:
เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อให้ครู ผู้ปกครอง ผู้บริหาร นักการศึกษา นิสิต-นักศึกษาและผู้สนใจมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเด็กปัญญาเลิศ และหาวิธีช่วยเหลือเด็กให้บรรลุศักยภาพสูงสุด และมีความก้าวหน้าในการจัดการศึกษา









วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีการอ่านหนังสือที่ถูกต้อง


1. หัดให้ตัวเองมีวินัยให้ได้ คือ ถ้าเราวางแผนว่าจะอ่านหนังสือให้ได้เท่านี้สำหรับวันนี้ เราก็ต้องทำให้ได้ วิธีฝึกเริ่มแรกให้กำหนดง่ายๆ ก่อนว่า วันนี้เราจะอ่านตำราแค่ 1 บท หรือ 10 หน้า เป็นต้น เอาแค่นี้ให้ได้ ถ้าอ่านจบเร็วก็ไปทำอย่างอื่น พอวันต่อๆ ไปก็ค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นตามสมควร แล้วก็ต้องอ่านให้ได้ตามเป้าหมาย เมื่อเราอ่านได้ตามเป้าแล้วในแต่ละครั้งก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วยทุกครั้ง โดยรางวัลก็อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ เช่น ได้ดูละครหนึ่งเรื่องตอนกลางคืน เป็นต้น
2. วางแผนการอ่านหนังสือ เมื่อเรามีวินัยและเคารพการวางแผนของตัวเองแล้ว ต่อไปก็ต้อง วางแผนการอ่านหนังสือ การวางแผนที่ดีนั้นสำคัญมาก เพราะทำให้เราเดินไปถูกทิศทาง การวางแผนไม่ถือเป็นการเสียเวลา แต่เป็นการประหยัดเวลาในระยะยาว เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินผิดทาง
3. อย่าตะบี้ตะบันอ่านเกินควร อย่าคิดว่าตัวเองเป็น superman คือ สามารถอ่านหนังสือได้เยอะเกินกำลังภายในเวลาอันสั้น อย่าวางตารางการอ่านให้แน่นเกินไป เพราะนอกจากจะทำไม่ได้ตามแผนอยู่แล้ว ยังทำให้ตัวเองเครียดเพราะแผนนั้นโดยไม่จำเป็นด้วย แรกๆ อาจจะกะความสามารถตัวเองยากหน่อย หรือการอ่านตำราภาษาอังกฤษกับภาษาไทยก็ใช้ระยะเวลาการอ่านไม่เท่ากัน ก็ใช้เก็บสถิติจากการอ่านในรอบแรกๆ เช่น การอ่านภาษาอังกฤษ 1 หน้า เราใช้เวลา 10 นาที เราก็จะประมาณถูกว่าต้องใช้เวลาเท่าไรจึงจะอ่านจบบทหรือจบวิชา เป็นต้น
4. หาที่อ่านที่สงบเงียบและนั่งสบาย ส่วนบรรยากาศก็แล้วแต่คนชอบ บางคนชอบอ่านที่บ้าน ในห้องสมุด ในสวนมีต้นไม้เขียวๆ หรือในร้านกาแฟ หรือบางทีเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ควรไม่อยู่ใกล้ทีวี หรือสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราเสียสมาธิ เพราะทำให้เราเสียเวลาในการอ่าน และทำให้จำได้ไม่ดีด้วย แต่ก็ทราบมาว่าบางคนจะชอบให้มีเสียงเพลงหรือเสียงอื่นๆ เวลาอ่านหนังสือด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบ
5. อย่าให้สิ่งใดมารบกวนการอ่าน เวลาอ่านหนังสือ เราควรกำหนดว่า เวลานี้เราจะตั้งใจ และไม่ปล่อยให้อะไรมาขัดโดยไม่จำเป็น เช่น อาจจะปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น คนอื่นก็จะไม่มารบกวนโดยไม่จำเป็น การได้ทำงานหรืออ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาติดต่อกันอย่างนี้มีประสิทธิภาพกว่าการอ่านที่ถูกหยุดด้วยสิ่งต่างๆ
6. พักผ่อนสมองบ้าง เมื่ออ่านหนังสือไปนานๆ เราก็จะเริ่มล้า ทั้งสมองที่ต้องคิด ทั้งร่างกายที่ไม่ได้ขยับ ทั้งสายตาที่ต้องจ้องอยู่นาน เราก็ควรกำหนดเวลาพัก อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบ อาจจะพักอ่านหนังสือทุกๆ ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง โดยออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ ทานขนม หรือไปมองต้นไม้เขียวๆ เวลาพักก็ต้องกำหนดด้วยว่า 5 นาที หรือ 15 นาที เป็นต้น
7. ชอบขีดเส้นหรือเน้นข้อความที่สำคัญในหนังสือโดยไม่หวงหนังสือ ว่าจะดูเลอะเทอะเลย เพราะชอบเวลากลับมาอ่านทวน เราก็จะรู้ว่าจุดไหนเป็นข้อมูลสำคัญ เรายังสามารถใช้ทบทวนก่อนสอบได้ด้วย สำหรับคนที่ชอบหนังสือใหม่ๆ เกลี้ยงๆ ก็อาจจะต้องหาสมุดกับปากกามาจดสิ่งที่สำคัญจากหนังสือนั้นๆ เพื่อการอ่านทบทวนได้
8. พยายามจัดเวลาอ่านหนังสือในช่วงเวลาที่เราตื่นตัวที่สุด อันนี้แตกต่างกันไป บางคนจะจำได้ดีถ้าอ่านตอนเช้า บางคนเป็นตอนเย็น ก็ต้องสังเกตตัวเองดู ถ้าทราบแล้วอาจจะกำหนดเป็นเวลาประจำทุกวัน เช่น ทุกวันเวลา 2 ทุ่ม - 5 ทุ่ม เราต้องอ่านตำราทบทวนที่เรียนมา เป็นต้น 

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การส่งเสริมให้เยาวชนรักการอ่าน

การส่งเสริมให้รักการอ่านจากครอบครัว
1. ปลูกฝังแต่วัยเด็กด้วยการ์ตูน นิทานภาพ
2. พ่อแม่ควรพาไปเลือกซื้อหนังสือที่เด็ก ๆ อยากอ่าน แม้จะเป็นหนังสือการ์ตูน
3. พาเด็กไปร้านหนังสือหรือห้องสมุด หรือพาลูกไปงานสัปดาห์หนังสือ เลือกซื้อ เลือกดู เลือกอ่านหนังสือตามที่ลูกชอบ (ร้านหนังสือบางแห่งจะพบว่ามีเด็กไปอ่าหนังสือกันมาก)
4. เสริมแรงเชิงบวกด้วยการให้รางวัลจากการอ่าน (เสริมแรงแต่พอเหมาะ อย่าบ่อยจนเป็นเงื่อนไข)
5. ให้คำชมเมื่อลูกอ่านหนังสือ
6. ให้ลูกเล่าเรื่องหรือตอบคำถามจากการอ่าน
7. พ่อแม่ควรเล่านิทานหรือเรื่องที่น่าสนใจให้ลูกฟัง เมื่อลูกสนใจจึงให้ลูกอ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ
8. วิธีการแบบโบราณ คือ ให้ลูกอ่านหนังสือให้ฟัง แบบการอ่านวรรณคดีหรือวรรณกรรมให้ผู้ใหญ่ฟังในสมัยก่อน
9. ถ้าลูกชอบใช้คอมพิวเตอร์ อาจส่งเสริมการอ่านในโลกไซเบอร์ หรือการอ่านจากอินเตอร์เนต
10. การ์ตูนโดเรมอน ขายหัวเราะ อย่าคิดว่าไร้สาระยังมีประโยชน์ ซื้อให้ลูกอ่านสร้างนิสัยรักการอ่าน


การส่งเสริมให้รักการอ่านจากโรงเรียน
1. บันทึกย่อการอ่าน หลายโรงเรียนให้เด็กเล็ก ๆ บันทึกการอ่านเต็มรูปแบบ อาจทำให้เด็กเบื่อ จึงควรเป็นบันทึกแบบย่อ บอกเรื่องที่อ่าน ใจความสำคัญ 2-3 บรรทัด และข้อคิดจากการอ่าน
2. จัดมุมหนังสือในห้องเรียนที่มีหนังสือเหมาะสมกับวัยของเด็ก วรรณคดีหรือวีรบุรุษไทยในรูปแบบการ์ตูน หรือไดโนเสาร์ เด็ก ๆ จะชอบอ่าน
3. จัดสัปดาห์ส่งเสริมการอ่าน มอบรางวัลให้นักอ่าน ในงานมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การเขียนเรื่องยกย่องนักอ่านประจำสัปดาห์ โดยอย่าให้ซ้ำแต่คนเดิม
4. ห้องสมุดโรงเรียนควรจัดบรรยากาศเชิงบวก จัดสถานที่อ่านให้นั่ง นอน ได้ตามความต้องการของเด็ก และบรรณารักษ์ต้องมีแต่รอยยิ้ม
5. จัดมุมหรือป้ายนิเทศ เพื่อนำคำปริศนาคำทาย ปริศนาร้อยกรองให้เด็กอ่าน แล้วส่งคำตอบให้ครูประจำชั้น เพื่อชิงรางวัล กิจกรรมนี้จะช่วยฝึกความคิดของผู้เรียน
6. ค่ายนักอ่านหรือค่ายรักการอ่าน จัดกิจกรรมจากการอ่านแบ่งเป็นฐาน เช่น อ่านแล้วแข่งกันเล่าเรื่อง อ่านแล้วตอบคำถาม(เกม) อ่านแล้วเติมปริศนาอักษรไขว้ อ่านปริศนาคำทายแล้วตอบคำถามสะสมคะแนนแบบแรลลี่
7. กิจกรรมแข่งขันกันเล่านิทาน โดยให้นักเรียนอ่านนิทานแล้วนำมาเล่าให้เพื่อนฟัง
8. อ่านเก่งเป็นผู้นำ เสริมแรงคนขยันอ่านด้วยการมอบบทบาทให้เป็นผู้นำกลุ่มหรือหัวหน้าห้อง 1 สัปดาห์
9. ธนาคารคำ ฝึกการบันทึกคำและความหมายของคำที่พบจากการอ่าน เพื่อเป็นคลังคำพื้นฐานของเด็ก
10. นักข่าวน้อย บันทึกการอ่านล้วนำเสนอผ่านเสียงตามสายหรือรายการโทรทัศน์วงจรปิดภายในโรงเรียน